เมื่อน้ำดื่มล้นตลาด(Over Supply) ลูกค้ามีอำนาจต่อรองสูง (High bargaining power of Buyers) และ น้ำดื่มดูไม่แตกต่างกัน
ลูกค้า สามารถต่อรอง และ เลือกในราคาที่ต้องการ เมื่อเกิดการแข่งขันมาก น้ำดื่ม”ไม่มีความแตกต่าง” และ ผู้ผลิตที่แยะ จนบางแห่ง “ล้นตลาด” หรือ ลูกค้าสามารถหาบริการ ด้วยความเร็วของโลกบนอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย สามารถค้น เปรียบเทียบราคา และหาที่ถูกกว่าได้โดยง่าย
การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น เมื่อมีสินค้าหรือบริการล้นตลาด ผู้ขายเต็มใจต่อรองราคาหรือเสนอส่วนลดมากขึ้น…ลดมากขึ้น…มากขึ้น….และ…มากกกกกขึ้น…เพื่อดึงดูดและรักษาฐานลูกค้าไว้ จนบางครั้งไม่มีกำไร
“มันกำลังเกิดขึ้นและจะรุนแรงขึ้น”
ผมยินดีกับผู้ประกอบการที่สามารถควบคุมต้นทุนได้ต่ำนะครับ เพราะผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ คุณสามารถควบคุมการผลิตและผลักดันการตลาดได้ดีครับ จึงเห็นจุดระบายสินค้าและผู้ประกอบการร้านค้า ร้านขายน้ำราคาย่อมเยาเกิดขึ้นมากมาย
สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังต่อสู้อยู่ในธุรกิจน้ำดื่มนี้ อาจเป็นเรื่องยากที่จะสร้างความแตกต่าง และดึงดูดลูกค้า ขอฝากข้อเขียน ไว้ให้นะครับ เผื่อจะช่วยได้ ลองพิจารณาและปรับใช้ดู
- ถ้าสามารถทำได้….. ให้ปรับและบริหารต้นทุนเพื่อให้ได้ราคาที่ต่ำที่สุด ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการยาก แต่จริงๆแล้วมีหลายวิธี และ แต่ละแห่งอาจจะไม่เหมือนกัน ต้องพิจารณารอบด้าน ข้อนี้คิดว่า ยากและคงจะพยายามทำกันอยู่แล้ว… แต่ อยากให้ลองคิดทบทวน การลดต้นทุนมีเทคนิคอีกแยะ ครับ
- ต้องรักษามาตรฐานน้ำดื่ม ให้มีคุณภาพ และ มาตรฐานที่ดีไว้ อย่าปล่อยให้ของไม่ดี ไม่สะอาด ออกมา
- ให้สร้างแบรนด์ …โดยหลายๆคนตีความว่าแบรนด์คือ…”ยี่ห้อน้ำดื่ม”….. ซึ่งมันไม่ค่อยจะถูกต้อง.. เพราะ มันมี มิติ และ มีวิธีเล่าเรื่อง (Story Telling) และการกระทำมากกว่านั้น อาทิเช่น
- ทำ Personnel Brand คือ ใช้ตัวเจ้าของหรือบุคคลนำมาเป็นนแบรนด์ หรือ เกี่ยวโยงกับแบรนด์ โดยตัวบุคคลที่เกี่ยวจะต้อง มีภาพลักษณ์ที่ดี อาจเป็นคนดี มีศีลธรรมในชุมชน เช่น “น้ำดื่มครูใหญ่ใจดี” น้ำดื่มเพื่อวัด หรือ นำเงินกำไรบางส่วนทำบุญ ….หรือ รักธรรมชาติ นางงาม ดารา อะไรก็ตามที่จะให้เกิด อิมเมจที่ดี ทำให้น้ำดื่มมีภาพลักษณ์และรู้จัก ในเรื่องดีๆ ในตลาดท้องถิ่นที่อยู่ รักษาพื้นที่ชุมชนที่ดีไว้อาจจะเป็นสถานที่ เช่น น้ำมาจากแหล่ง ธรรมชาติ มีความหายาก มีค่า PH ที่สูง มีความบริสุทธิ์สะอาดยังไง หรืออาจจะแหล่งที่อากาศดีที่สุดในประเทศ แหล่งน้ำดิบพันปี เอาทุกอย่างมาเป็นส่วนนึงของแบรนด์ อย่างเช่น บางแบรนด์ แค่ใช่แหล่งน้ำดิบว่ามีความเป็นด่างสูงมาเป้นจุดขายทำแบรนด์ ขายได้ขวดละมากกว่า 20 บาท
- เรื่อง เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างความรู้สึกพิเศษและหายาก ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเป็น สายมู สายเทพ.. (แนะนำตามความเชื่อนะครับ ไม่ได้ให้ไปตั้งธง หลอกคนอื่นๆ)
- การสร้างแบรนด์ นำดื่มให้จดจำง่าย.. แล้วแต่สถานที่
- การสร้างแบรน์ ยังมีในหลายวิธี นะครับ อย่าคิดเพียงว่าแค่ชื่อ ยีห้อ อย่างเดียว …
- ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า… อย่างที่บริษัทน้ำดื่มจ้าวตลาดรายใหญ่ กำลังเริ่มทำ คือ การบริการส่งถึงรายย่อยเพื่อสร้างฐานลูกค้า ผูกลูกค้าไว้กับแบรนด์ ถ้าลองทำแบรนด์แล้วส่งน้ำแพ็คถึงรายย่อยได้ ไม่ใช่แค่น้ำถัง ก็จะเพิ่มตลาดสร้างความแตกต่างได้
- มองหาตลาดเพิ่มขึ้น: บริษัทต่างๆ สามารถมองหาตลาดเฉพาะที่มีการแข่งขันน้อย เช่น รับผลิต OEM ทำแบรนด์ให้ร้านค้า โชว์รูม ธนาคาร หรือ ธุรกิจรายย่อยอื่นๆ ซึ่งจะได้ลูกค้าในระยะยาว เพราะเมื่อไรก็ตาม มีลูกค้ามาทำแบรนด์กับเรา นั้นหมายถึง ความน่าเชื่อถือ และ จะได้ซื้อขายกันตลอดไป
- มองหาโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้น อาทิเช่น ผลิตน้ำด่างอัลคาไลน์ ผลิตน้ำไฮโดรเจน ผลิตน้ำออกซิเจน ผลิตน้ำเพื่อสุขภาพ (โปรดติดตามที่เพจ และ FaceBook นะครับ จะทยอยลงในรายละเอียด ว่าแต่ละอย่าง คือ อะไร??)
- บริการเสริม: เช่น ส่งน้ำด้วย ส่งน้ำวิตามินด้วย ส่งนมด้วย อื่นๆ ที่คิดว่า พ่วงได้ เพิ่มยอดขายได้
ท้ายที่สุดแล้ว กลยุทธ์ที่ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะของตลาดและทรัพยากรที่บริษัทมีอยู่ อาจต้องใช้กลยุทธ์ต่างๆ ผสมผสานกันจึงจะประสบความสำเร็จ ขอให้โชคดีครับ หาแผนของตัวเองให้ได้..ครับ
ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ มาร่วมกันในเพจ Facebook “ผู้ประกอบธุรกิจน้ำดื่ม โรงงานน้ำดื่ม น้ำแร่ ทั่วไทย” ได้ครับ
แล้วพบกับ วิธีการทำตลาดใหม่ๆ เร็วๆนี้กับ Wink ครับ
