fbpx

เริ่มสร้างโรงงานน้ำดื่ม

เมื่อตัดสินใจจะสร้างโรงงานน้ำดื่ม สิ่งที่จำเป็นอย่างแรกคือ การศึกษาหาข้อมูลกับทาง อย ในท้องที่เพื่อสอบเป็น”ผู้ควบคุมการผลิตน้ำบริโภค ตามมาตราฐาน อย” ซึ่งเป็นข้อกำหนดว่าในแต่ละโรงงานผลิตน้ำดื่ม ต้องมี ผู้ควบคุมการผลิตน้ำบริโภค ที่สอบผ่านเกณฑ์ ในแต่ละโรงงาน

การขอสร้าง โรงงานน้ำดื่ม

สนใจลงทุนโรงงานน้ำดื่มขนาดเล็ก หรือ ครัวเรือน

ให้เริ่มจากติดต่อ อย. ในท้องที่ก่อนเลยครับ เนื่องจากเป็นขนาดเล็กให้สร้างตามแปลน อย.ได้

ขนาดการลงทุน : โดยประมาณ เริ่มต้นที่ 200,000 – ขึ้นไป (เฉพาะระบบกรอง ไม่ได้รวมอาคารสถานที่) (ทางวิ้งค์ไม่ได้รับทำครับ)

สนใจลงทุนโรงงานน้ำดื่มแบบกึ่งอัตโนมัต หรือ อัตโนมัติ เฉพาะโรงบรรจุน้ำดื่ม ไม่ได้ผลิตขวด

เป้าหมายผลิตน้ำดื่มมากกว่า 1000 แพคต่อวัน, น้ำถังมากกว่า 500 ถังต่อวัน, สามารถรับผลิตน้ำดื่ม ทำแบรนด์ลูกค้า ต้องมีระบบจัดการการผลิตที่ดี

สิ่งที่ต้องเช็คข้อมูลเบื้องต้นก่อน ที่จะเริ่มทำได้คือ

  • ขนาดของพื้นที่ สามารถออกแบบและดัดแปลงได้ ขนาดพื้นที่โรงงาน ควรจะมากกว่า 250 ตารางเมตร ยิ่งมากยิ่งดี..เพราะจะทำเรื่อง อย เริ่มต้นครั้งเดียวจบ ถ้ามีข้อจำกัดเรื่องขนาดโรงงาน ให้โทรสอบถามได้โดยตรงที่วิ้งค์ได้ครับ
  • สถานที่ตั้งโรงงาน ต้องสามารถดูด น้ำบาดาลได้อย่างน้อย 3-8 Qต่อชั่วโมง (ขุดบ่อควรลึกอย่างน้อย 40 เมตร)หรือ มากกว่านี้ยิ่งดี หรือ ใช้น้ำประปาก็ได้ แล้วแต่สะดวก..
  • สามารถขอไฟ 3 เฟส ขนาดของเมนเบรกเกอร์ อย่างน้อย 50แอมป์ ถึง 100แอมป์ ได้ในพื้นที่จะสร้างโรงงาน.
  • ในพื้นที่ สามารถสร้างโรงงาน แบบ รง2 หรือ รง4 ได้ (ต้องไปเช็คกับกรมโรงงานในพื้นที่ก่อนจะเริ่มสร้าง)
    • ถ้าสามารถขออนุญาติเป็น รง2 ได้ ก็สามารถสร้างได้ แต่ไม่สามารถ ขยายต่อไปในอนาคตได้มากนัก
    • ถ้าสามารถขออนุญาติเป็น รง4 ได้ จะสามารถขยายกำลังการผลิต และ เพิ่มเติมเครื่องจักรประเภทเครื่องเป่าขวด เครื่องผลิตพรีฟอร์ม ได้ใน อนาคต

ขนาดการลงทุน : โดยประมาณ เริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท ขึ้นไป (เฉพาะเครื่องจักร เครื่องบรรจุ ระบบกรอง ไม่ได้รวมอาคารสถานที่)

ถ้าสนใจลงทุนโรงงานน้ำดื่มขนาดใหญ่ ผลิตขวด และหรือ ผลิตพรีฟอร์มด้วย

เป้าหมายผลิตน้ำดื่มมากกว่า 5000 แพคต่อวัน ผลิต 24 ชั่วโมง เพื่อต้นทุนน้ำดื่มต่อแพ็คที่ถูกที่สุดคือ 20-25 บาทต่อแพ็ค ต้องมีระบบจัดการการผลิตที่ดี ระบบขนส่ง ระบบการกระจายสินค้า ระบบคลังสินค้า

สิ่งที่ต้องเช็คข้อมูลเบื้องต้นก่อน ที่จะเริ่มทำได้คือ

  • ขนาดของพื้นที่ สามารถออกแบบและดัดแปลงได้ ขนาดพื้นที่โรงงาน ควรจะมากกว่า 800 ตารางเมตร ยิ่งมากยิ่งดี..ถ้ามีข้อจำกัดเรื่องขนาดโรงงาน ให้โทรสอบถามได้โดยตรง
  • สถานที่ตั้งโรงงาน ต้องสามารถดูด น้ำบาดาลได้อย่างน้อย 10 Qต่อชั่วโมง (ขุดบ่อควรลึกอย่างน้อย 40 เมตร)หรือ มากกว่านี้ยิ่งดี หรือ ใช้น้ำประปาก็ได้ แล้วแต่สะดวก..
  • สามารถขอไฟ 3 เฟส ขนาดใหญ่ น่าจะติดตั้งหม้อแปลงมากกว่า 500 KVA เป็นต้นไป
  • ในพื้นที่ สามารถขออนุญาติตั้งโรงงานได้ ขอ รง4 ได้

ขนาดการลงทุน : โดยประมาณ เริ่มต้นที่มากกว่า 10 ล้านบาท ขึ้นไป (เฉพาะเครื่องจักร เครื่องบรรจุ ระบบกรอง เครื่องเป่าขวด เครื่องผลิตพรีฟอร์ม ไม่ได้รวมอาคารสถานที่)

ขั้นตอนหลังจากท่านหาข้อมูล ศึกษาความเป็นไปได้ และ ประเมินตลาดแล้ว มีดังต่อไปนี้

  • ติดต่อทางบริษัท เพื่อ เริ่มสำรวจ พื้นที่ วางแปลนโรงงาน และ ทำรายละเอียดเครื่องจักร ที่ต้องการ
    • นำลายละเอียดเครื่องจักร มาเป็นส่วนประกอบในลายละเอียด โครงสร้าง การสร้างโรงงาน แยกจุดหนักเบา ร่องน้ำไหล กระบวนสายพานการผลิต(GMP) ..
    • ผู้ผลิตเครื่องจักร จะต้องสามารถเตรียมเอกสาร เพื่อติดต่อ อย. และ กรมโรงงาน ให้ทางลูกค้า
    • ผู้ผลิตเครื่องจักร ส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลา 1-3 เดือนในการผลิตเครื่องจักร ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวน
    • วางตำแหน่งเครื่องจักรให้เหมาะสม ในแบบแปลนการสร้างโรงงาน (สมควรให้ผู้เชี่ยวชาญร่วมออกแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับการทำงาน การปฎิบัติงาน และ รองรับโอกาศทางการตลาดจะขยายงานในอนาคต)
  • ติดต่อ อย. ประจำท้องที่ แจ้งจุดประสงค์ ในการทำโรงผลิตน้ำดื่ม ใช้เอกสารที่ผู้ผลิต เครื่องจักร เตรียมให้
  • ส่งน้ำดิบตรวจสอบหาสารปนเปื้อน (เพื่อจะได้จัดเตรีมระบบกรองได้ถูกต้อง)
  • สร้างโรงเรือน
    • สร้าโรงเรือน ตามแบบ มาตราฐาน อย. (ส่วนใหญ่เหมาะกับโรงงานขนาดเล็ก หรือ ครัวเรือน)
    • สร้างโรงงานตามแบบมาตราฐาน อย. บวกกับลายละเอียด ขนาดและจำนวนเครื่องจักร (ส่วนใหญ่เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีผลิตภัณฑ์ต่างๆหลากหลาย เช่น น้ำแร่ น้ำขวด น้ำถ้วย น้ำถัง เป็นต้น)
  • ติดตั้งเครื่องจักร ตามแบบแปลน และ ทดสอบเครื่องจักร
  • นำน้ำที่ผ่านกระบวนการกรอง แบบแปลนโรงงาน พร้อมกรอกแบบฟอร์ม ยื่นขอ อย.
  • ออกแบบ ขวด และ ฉลาก พร้อมกับ ได้รับการตรวจสอบจาก อย.
  • เริ่มผลิตและจำหน่าย

แหล่งน้ำ

  • การผลิตน้ำดื่ม สามารถใช้น้ำประปาหรือน้ำบาดาลก็ได้ ในการผลิต
  • ในกรณีที่ผู้ประกอบการมีปัญหาเรื่องน้ำ คือน้ำประปาไม่ถึง หรือ น้ำประปาเข้าถึงแต่ไม่เพียงพอต่การผลิต ผู้ประกอบการจะต้องขอ อนุญาติการใช้น้ำบาดาลกับกรมทรัพยากรธรณี